ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือหลายรุ่น มีการพัฒนาให้สามารถกันน้ำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันสามารถกันน้ำได้ 100% หลายคนกังวลใจว่าจะทำอย่างไร เมื่อเราอยู่ในเหตุการณ์ที่โทรศัพท์เปียกฝนหรือมีน้ำเข้าครับ
หากโทรศัพท์ของเราเปียกน้ำ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน มือถืออาจเสียหายหรือใช้งานไม่ได้อีกเลยครับ หากเหตุการณ์แย่ ๆ แบบนี้กิดขึ้น เราจะมีวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ อย่างไรบ้าง Itnews24hrs ได้สรุปข้อมูลมาให้แล้วในบทความนี้ครับ
โทรศัพท์เปียกฝน เปียกน้ำ ใช้งานได้หรือไม่ ?
เนื่องจากภายในโทรศัพท์มือถือมีวงจรขนาดเล็กและซับซ้อนมาก เมื่อโทรศัพท์เปียกฝนหรือโทรศัพท์เปียกน้ำไม่ควรนำไปใช้งาน เพราะเสี่ยงทำให้โทรศัพท์ของเราพัง อาจเกิดการลัดวงจร รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ได้รับความเสียหายตามไปด้วย
นอกจากนี้ไม่ควรนำโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำ ไปชาร์จแบตเตอรี่โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้วงจรต่าง ๆ เกิดการช็อต หรือเกิดการระเบิดได้ครับ
![อันตรายจากการใช้โทรศัพท์เปียกน้ำ](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/อันตรายจากการใช้โทรศัพท์เปียกน้ำ.png)
อันตรายจากการใช้โทรศัพท์เปียกน้ำ
หากเรานำโทรศัพท์ที่เปียกน้ำมาใช้งาน เสี่ยงที่จะทำให้โทรศัพท์ของเราได้รับความเสียหาย เช่น
- โทรศัพท์เปียกน้ำเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- การเกิดเพลิงไหม้สถานที่อยู่อาศัย
- ถูกไฟฟ้าช็อต ไฟดูด จนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ ชุบชวิตมือถือให้ใช้งานได้อีกครั้ง
1. นำโทรศัพท์ออกจากพื้นที่เปียกทันที
เมื่อโทรศัพท์ของเราตกน้ำ ควรรีบตั้งสติ และควรหยิบโทรศัพท์ของเราออกจากพื้นที่เปียกทันที
เพราะหากโทรศัพท์ของเราแช่น้ำนานเท่าไร ความเสียหายยิ่งรุนแรงมากขึ้นครับ
หากมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ควรดึงออก และหยุดการเชื่อมต่อทันที เพื่อลดความเสียหายของวงจรเชื่อมต่อภายในหลังจากโทรศัพท์เปียกน้ำ และที่สำคัญ หลังจากนำโทรศัพท์ออกจากพื้นที่เปียกได้แล้ว ควรปิดเครื่องทันที
![ห้ามเปิด ๆ ปิด ๆ เครื่องโทรศัพท์](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/ห้ามเปิด-ๆ-ปิด-ๆ-เครื่องโทรศัพท์.png)
2.ห้ามเปิด ๆ ปิด ๆ เครื่องโทรศัพท์
เมื่อโทรศัพท์ของเราเปียกน้ำไม่ควรเปิด ๆ ปิด ๆ เครื่องโทรศัพท์ รวมถึงปุ่มอื่น ๆ ที่อยู่บนตัวเครื่องอีกด้วย
เนื่องจากความชื้นหรือน้ำ สามารถสร้างความเสียหายให้กับวงจรของโทรศัพท์ของเราได้
เพราะกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มีการไหลเวียนภายในวงจร หากเรากดปุ่มต่าง ๆ หรือเปิด ๆปิด ๆ จะส่งผลทำให้โทรศัพท์ของเรามีการช็อตภายในวงจรได้ทันที
3. เช็กความเปียกว่ามาก-น้อยแค่ไหน
หากโทรศัพท์เปียกน้ำให้เช็กว่าโทรศัพท์มือถือของเราเปียกน้ำมาก-น้อยแค่ไหน
โดยต้องรีบตรวจสอบว่าน้ำสามารถเข้าไปภายในตัวเครื่องได้หรือไม่ โดยตรวจสอบพอร์ตที่ชาร์จแบต หรือตัวลำโพงของโทรศัพท์ครับ
หากมีการตรวจสอบแล้ว ว่าไม่มีหยดน้ำไหลออกจากพอร์ตที่ชาร์จแบตมือถือมากจนเกินไป เราสามารถเช็ดให้แห้งและใช้งานได้ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ มี Seal ปิดผลึกป้องกันน้ำเข้าได้
![ใช้ผ้าซับโทรศัพท์มือถือให้แห้ง](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/ใช้ผ้าซับโทรศัพท์มือถือให้แห้ง.png)
4. ใช้ผ้าซับโทรศัพท์มือถือให้แห้ง
การกู้ชีพโทรศัพท์มือถือที่ตกน้ำเพียงเล็กน้อย หรือตกในลักษณะไม่เกิน 10 วินาที โดยที่มือถือไม่จมน้ำ และโทรศัพท์สามารถทำงานได้ปกติ
วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ คือ เราสามารถถอดเคสมือถือ เพื่อทำความสะอาดโดยการเช็ดให้แห้ง โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ซับน้ำและความชื้นให้หมดไป ระหว่างการเช็ดทำความสะอาด ไม่ควรเคาะ หรือใช้อุปกรณ์งัดโทรศัพท์โดยเด็ดขาดครับ
5. เช็ดทำความสะอาดพอตเสียบ
การเช็ดทำความสะอาดพอตเสียบโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำเพียงเล็กน้อย ควรเช็ดด้วยความระมัดระวัง โดยใช้กระดาษเช็ดมือหรือผ้านุ่ม ๆ ค่อย ๆ ทำการเช็ด เพื่อซับน้ำที่ตกค้างอยู่ในพอตช่องเสียบต่าง ๆ ของโทรศัพท์มือถือครับ
ซึ่งเราสามารถใช้คัตตอนบัต ช่วยทำความสะอาดเช็ดพอร์ตช่องเสียบต่าง ๆ ของมือถือได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้เศษของสำลี เข้าไปอุดตันภายในพอตของโทรศัพท์มือถือได้
![เช็ดทำความสะอาดพอตเสียบ](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/เช็ดทำความสะอาดพอตเสียบ.png)
6. หากเปียกเยอะ ให้ปิดมือถือทันที
ในกรณีโทรศัพท์ของเราเปียกน้ำเยอะ หรือมีการจมน้ำมากกว่า 30 วินาทีขึ้นไป ถ้าเครื่องยังไม่ดับ ให้ปิดมือถือทันที รวมถึงไม่ควรกดปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้นครับ
เพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ที่จมน้ำเกิดการลัดวงจร และลดความเสียหายของอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ หากยังไม่สามารถใช้งานได้ วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ คือ ควรส่งซ่อมกับศูนย์บริการ หรือร้านซ่อมโทรศัพท์ให้เร็วที่สุด
7. เก็บมือถือเปียกในถุงสุญญากาศ
เมื่อโทรศัพท์มือถือของเราเปียกน้ำควรรีบปิดเครื่องทันที และถอดเคสโทรศัพท์มือถือออก ถ้าเรามีถุงสูญญากาศก็อาจช่วยชุบชีวิตมือถือของเราได้ครับ
โดยการใส่มือถือเปียกน้ำไว้ในถุงสูญญากาศ เพื่อกำจัดความชื้น จากนั้นให้เราใช้เครื่องดูดอากาศ ดูดความชื้นออกจากตัวเครื่องผ่านถุงสูญญากาศอีกที
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรนำโทรศัพท์มือถือไปใส่ในถุงข้าวสาร เพราะอาจมีเศษข้าวหรือเศษฝุ่นผงเข้าไปอัด หรืออุดตันภายในเครื่อง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายตามมาได้ครับ
![ถอดซิม SD Card หรือแบตเตอรี่](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/ถอดซิม-SD-Card-หรือแบตเตอรี่.png)
8. ถอดซิม SD Card หรือแบตเตอรี่
เมื่อโทรศัพท์มือถือเปียกน้ำ ในกรณีโทรศัพท์มือถือเป็นรุ่นเก่า สามารถถอดแบตเตอรี่ ถอดซิม และ SD Card ออกมาได้
วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ในข้อนี้ คือ ควรถอดแบตเตอรี่ ซิมการ์ด และ SD Card ออกมาให้หมด เพื่อทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง
นอกจากนี้ควรจัดเก็บชิ้นส่วนที่ถอดออกมาให้ดี เพื่อให้เรานำกลับมาประกอบได้ง่าย ไม่ต้องยุ่งยากในการหาในครั้งต่อไป
ส่วนมือถือรุ่นใหม่ที่ไม่สามารถถอดอุปกรณ์เหล่านี้ออกได้ ควรปิดเครื่องให้เร็วที่สุด แล้วลองทำตามวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ในข้ออื่นๆ ดูครับ หากยังใช้งานไม่ได้ให้รีบนำส่งศูนย์ซ่อมทันที
9. ใช้ไดร์เป่าผม เป่าลมเบา ๆ
เมื่อโทรศัพท์เปียกน้ำเพียงเล็กน้อย เราสามารถเช็ดทำความสะอาดและใช้ไดร์เป่าผม เป่าลมเบา ๆ ได้ครับ
แต่การใช้ไดร์เป่าผมจำเป็นต้องเป่าด้วยลมเบา ๆ ควรปรับลมร้อนให้พอดี หรือใช้ลมตามอุณหภูมิห้อง เพื่อป้องกันการลัดวงจรของโทรศัพท์มือถือ
หรือสามารถใช้พัดลมเป่าให้ตัวเครื่องแห้งสนิทได้ ข้อแนะนำ คือ ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผม เป่าเป็นระยะเวลานาน ติดต่อกัน เพราะอาจทำให้เครื่องได้รับความร้อนมากจนเกินไป ส่งผลทำให้แผงวงจรเกิดความเสียหาย และอุปกรณ์อื่น ๆ เสียหายตามไปด้วย
ควรเป่าลมประมาณ 5-7 วินาที แล้วหยุดเป่า จากนั้นค่อยเริ่มเป่าลมใหม่ครับ
![ถอดเคสโทรศัพท์ออกทันที งดใส่เคสชั่วคราว](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/ถอดเคสโทรศัพท์ออกทันที-งดใส่เคสชั่วคราว.png)
10. ถอดเคสโทรศัพท์ออกทันที งดใส่เคสชั่วคราว
เมื่อโทรศัพท์มือถือตกน้ำหรือเปียกน้ำ ควรให้รีบถอดถอดเคสโทรศัพท์ออกทันทีครับ
และงดการใส่เคสชั่วคราว เพราะจะทำให้น้ำที่อยู่ภายในตัวเครื่องไหลออกมาไม่สะดวก อาจไปปิดกั้นกันไหลของน้ำที่อยู่ภายในตัวเครื่อง หรือปิดกั้นการระเหยของความชื้นภายในตัวเครื่องได้
ดังนั้นเมื่อโทรศัพท์ตกน้ำไม่ควรใส่เคสชั่วคราวโดยเด็ดขาด!
11. วางโทรศัพท์ในสถานที่แห้ง ปลอดโปร่ง
วิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ด้วยการวางโทรศัพท์ในสถานที่แห้ง ปลอดโปร่ง ช่วยให้โทรศัพท์ของเราแห้งได้เร็วขึ้นครับ ซึ่งเราควรทำหลังจากที่เช็ดทำความสะอาด และถอดเคสออกเรียบร้อยแล้ว
เพราะลมจากธรรมชาติจะช่วยพัดความชื้น และไอระเหยภายในโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ทำลายโทรศัพท์ของเรา
แต่มีข้อควรระวัง คือ ไม่ควรวางโทรศัพท์ไว้กลางแดดโดยเด็ดขาดครับ! เพราะอาจทำให้วงจรภายในได้รับความเสียหายจากความร้อนได้
![ห้ามชาร์จมือถือหากไม่มั่นใจ](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/ห้ามชาร์จมือถือหากไม่มั่นใจ.png)
12. ห้ามชาร์จมือถือหากไม่มั่นใจ
มือถือรุ่นใหม่ ๆ เมื่อมีความชื้นตกค้างอยู่ในพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ หากได้รับกระแสไฟเข้าไป จะมีการเตือนและช่วยหยุดการชาร์จทันทีครับ
แต่สำหรับโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่า หากไม่มั่นใจว่าโทรศัพท์มือถือมีความชื้น หรือมีน้ำอยู่ภายในหรือไม่ ? เราควรชะลอการชาร์จออกไปก่อน จนแน่ใจว่าโทรศัพท์สามารถใช้งานได้
ถ้าหากเราชาร์จมแบตโดยที่มีน้ำหรือความชื้นอยู่ภายในโทรศัพท์ กระแสไฟจากแบตเตอรี่ จะทำให้เกิดการลัดวงจรของบอร์ดโทรศัพท์ หรืออาจเกิดการระเบิดจากแบตโทรศัพท์มือถือได้ครับ ซึ่งเป็นสิ่งอันตรายมาก ๆ
โทรศัพท์มือถือกันน้ำ เปียกน้ำได้ไหม ?
โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ มีระบบซีลกันน้ำตามมาตรฐานต่าง ๆ ครับ
เช่น IPX7 และ IPX8 สามารถป้องกันน้ำเข้าตัวเครื่องได้ในระดับความลึกไม่เกิน 1-1.5 เมตร ในระยะ 30 นาที
หากโทรศัพท์มือถือของเราตกน้ำในความลึกที่มากกว่านั้น หรือตกน้ำในระยะเวลาที่นานกว่านั้น จะทำให้โทรศัพท์ของเราเกิดความเสียหายได้ ทางที่ดีที่สุดควรดูแลโทรศัพท์ของเราให้ดีเมื่ออยู่ใกล้แหล่งน้ำ และไม่ควรให้เปียกน้ำจะดีที่สุดครับ
![โทรศัพท์เปียกน้ำ ควรใส่ถังข้าวสารหรือไม่](https://itnews24hrs.com/wp-content/uploads/2024/05/โทรศัพท์เปียกน้ำ-ควรใส่ถังข้าวสารหรือไม่.png)
โทรศัพท์เปียกน้ำ ควรใส่ถังข้าวสารหรือไม่ ?
เมื่อโทรศัพท์ของเราเปียกน้ำ ไม่ควรนำโทรศัพท์ใส่ในถังข้าวสาร ตามความเชื่อครับ!
อย่างแรกที่ควรทำเมื่อโทรศัพท์มีน้ำเข้า คือ ถอดเคสหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ออกทันที จากนั้นนำโทรศัพท์ไปเป่าลมหรือวางไว้ในที่โล่งรอจนให้แห้ง
ไม่ควรนำโทรศัพท์มือถือไปใส่กับข้าวสาร เพราะจะทำให้เศษข้าวสาร หรือฝุ่นของข้าวสาร เข้าไปภายในวงจรของโทรศัพท์ ซึ่งอาจทำให้โทรศัพท์ของเราเกิดความเสียหายได้
เราควรรณรงค์หยุดความเชื่อนี้ครับ โทรศัพท์เปียกน้ำ ไม่ควรนำไปใส่ในถังข้าวสาร!
สรุปเรื่องวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์
โทรศัพท์มือถือเปียกน้ำ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นครับ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เราต้องมีสติ อย่ามัวแต่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ให้รีบนำโทรศัพท์ออกจากที่เปียกให้เร็วที่สุด
หลังจากนั้นควรถอดอุปกรณ์เชื่อมต่อทุกชนิด ออกจากตัวเครื่องโทรศัพท์ ให้ถอดเคสโทรศัพท์เพื่อระบายน้ำหรือความชื้นออก ปิดเครื่องทันที ห้ามกดปุ่มใด ๆ ห้ามนำไปชาร์จแบตเด็ดขาด!
ซึ่งผู้อ่านทุกคนสามารถลองทำตามวิธีแก้ไขน้ำเข้าโทรศัพท์ ที่เราแนะนำในข้างต้นดูได้ครับ อาจช่วยชุบชีวิตมือถือของเรรให้กลับมาใช้งานตามปกติได้ แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นเราขอแนะนำส่งร้านซ่อมหรือส่งศูนย์จะดีที่สุด