Google Maps คืออะไร ? ใช้งานอย่างไร พร้อมฟีเจอร์ใช้งานที่อาจไม่รู้ !

Google Maps คืออะไร ใช้งานอย่างไร
Google Maps คืออะไร ? ใช้งานอย่างไร พร้อมฟีเจอร์ใช้งานที่อาจไม่รู้ !

ในยุคนี้เวลาที่เราเดินทางไปไหนมาไหน มักจะใช้แอป Google Maps เป็นตัวช่วยในการเดินทางจริงมั้ยล่ะครับ ไม่ว่าจะพื้นที่ไหนของประเทศไทย แอปกูเกิ้ลแมปสามารถนำทางเราไปได้ทุกที่ แถมยังมีบอกระยะเวลาที่คาดว่าจะถึงที่หมายอีกด้วย

คลิกอ่านหัวข้อที่สนใจ

ในบทความนี้ Itnews24hrs จะมาสรุปข้อมูลให้ได้อ่านกัน ว่า Google Maps คืออะไร ? ใช้งานอย่างไร ? พร้อมแนะนำฟีเจอร์เด็ดจากแอป Google Maps ที่ผู้ใช้งานหลายคนอาจจะไม่รู้ ! สามารถติดตามกันได้ผ่านบทความนี้เลยครับ

ทำความรู้จัก Google Maps คืออะไร ?

Google Maps คือ แอปพลิเคชันแผนที่นำทางครับ เวลาที่เราจะเดินทางไปไหน ก็สามารถพิมพ์ค้นหาสถานที่ผ่านแอป Google Maps ได้เลย โดยจะรวมการเดินทางแบบต่าง ๆ เอาไว้มากมาย เช่น ขับรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เดินเท้า ฯลฯ

โดยตัวแอปจะคำนวณเส้นทางการเดินทาง ที่คิดว่าเร็วที่สุดจากสถานที่ ณ ปัจจุบันให้เรา พร้อมคำนวณระยะเวลาการเดินทางให้เราเสร็จสรรพ แถมยังบอกอีกด้วยว่าการจราจรในเส้นนั้นติดขัดมาก-น้อยแค่ไหน 

นอกจากนี้ Google Maps ยังบอกรายละเอียดสิ่งรอบตัวระหว่างเส้นทางได้ดี เช่น จุดร้านอาหาร ธนาคาร สถานีรถไฟฟ้า BTS / MRT ปั๊มน้ำมัน ตู้ ATM ป้ายรถเมล์ ฯลฯ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีลบประวัติค้นหา Google Maps เพิ่มความเป็นส่วนตัว จับไม่ได้ว่าพิมพ์ค้นหาที่ไหน

Google Maps แอปแผนที่ค้นหาเส้นทาง
Google Maps แอปแผนที่ค้นหาเส้นทาง

ข้อดีการใช้ Google Maps มีอะไรบ้าง ?

  • อำนวยความสะดวกด้านการเดินทางแบบต่าง ๆ
  • มีการคำนวณระยะเวลาการเดินทางแบบ Realtime
  • ใช้นำทางไปสถานที่ไหนก็ได้บนโลก ขอแค่มีอินเตอร์เน็ต
  • เช็กที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ตัวได้ เช่น ตู้ ATM ที่ใกล้ที่สุด, ป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด
  • ติดตั้ง Google Maps ใช้งานได้ฟรี บน iOS และ Android

หลักการทำงานของ Google Maps เป็นแบบไหน ?

แอป Google Maps จะคำนวณเส้นทางจากตำแหน่งล่าสุดที่เราอยู่เสมอครับ 

แต่จะต้องเช็กให้ชัวร์ก่อน ว่าโทรศัพท์ของเราเปิด GPS เอาไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้แอป Google Maps ได้

เช่น เราอยู่ที่ Central ลาดพร้าว และต้องการเดินทางไปยัง Siam Paragon ตัวแอปก็จะคำนวณเส้นทางจาก Central ลาดพร้าว พร้อมแนะนำเส้นทางการเดินทางแบบต่าง ๆ ตามที่เราสะดวก เช่น เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ โดยระยะเวลาการเดินทางแต่ละแบบจะใช้เวลาไม่เท่ากันครับ

เราค้นหาข้อมูลจุดหมายปลายทางจากตรงไหน Google Maps ก็จะคำนวณเส้นทางให้เราจากที่ตรงนั้นเสมอครับ

ฟีเจอร์เด็ด Google Maps ที่หลายคนอาจไม่รู้

เช็กเส้นทางการเดินทางได้ Realtime

Google Maps เช็กเส้นทางการเดินทางได้ Realtime
Google Maps เช็กเส้นทางการเดินทางได้ Realtime

การใช้ Google Maps นำทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เราสามารถเช็กเส้นทางการเดินทางได้แบบ Realtime ณ เวลานั้น ๆ เลยครับ หากอยู่ดี ๆ รถติดกะทันหันจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น การประท้วง หรือ อุบัติเหตุ ระยะเวลาการเดินทางที่แสดงอยู่จะถูกบวกเพิ่มเข้าไป

แถมสถานะการจราจรยังเปลี่ยนเป็นสีแดง ที่มีความหมายว่ารถติดหนักอีกด้วยรับ ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าจุดหมายปลายทางที่เราจะไป การจราจรในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างไร เผื่อว่าจะได้หลีกเลี่ยงการเดินทาง หรือค้นหาเส้นทางที่ดีกว่านี้

Google Maps Timeline ไปไหนมาไหน รู้หมด !

Google Maps Timeline
Cr. : lystloc.com

Google Maps Timeline คือ ฟีเจอร์การเก็บประวัติการเดินทางครับ หากเปิดใช้งานฟีเจอร์ตัวนี้แล้ว ถ้าเราเดินทางไปไหนมาไหน ก็สามารถเช็กข้อมูลย้อนหลังได้ตลอดเป็นปี ๆ 

ทำให้รู้ว่าในแต่ละวัน เราเดินทางไปที่ไหนบ้าง ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ทำของหาย จะได้ตรวจสอบประวัติการเดินทางของเราได้ครับ ว่าของอาจจะหล่นหายระแวกไหน

สำหรับวิธีการเปิดใช้ Google Maps Timeline ทำตามได้ดังนี้

  1. เข้าแอป Google Maps
  2. คลิกรูป Profile มุมบนขวา -> คลิก Your timeline
  3. คลิกเพิ่มเติม ที่จุดสามจุด มุมบนขวา -> คลิก Settings and privacy
  4. คลิก Turn On ส่วนที่เป็น Location Services
  5. คลิก Turn On ส่วนที่เป็น Location History

เพิ่มจุดพักการเดินทางด้วย Add Stop

Add Stop เป็นการเพิ่มจุดพักการเดินทางครับ ซึ่งเราสามารถเพิ่มกี่จุดก็ได้ตามที่ต้องการ อารมณ์คล้าย ๆ กับการสร้างเส้นทางเพื่อวางแผนการเดินทางเลยครับ

ตัวอย่างการ Add Stop ครับ

เพิ่มจุดพักการเดินทางบน Google Maps ด้วย Add Stop
เพิ่มจุดพักการเดินทางบน Google Maps ด้วย Add Stop

เช่น ตอนนี้เราอยู่ที่ The Mall บางแค ต้องการไปรับเพื่อนที่ Central ปิ่นเกล้า เพื่อไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนจตุจักร เราก็สามารถ Add Stop เพื่อไปรับเพื่อนที่ Central ปิ่นเกล้าก่อนได้ครับ แล้วค่อยเดินทางไปที่สวนจตุจักร

ฟีเจอร์ Add Stop จะช่วยให้เราเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ  ได้อย่างสะดวก เพราะมีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าต้องเดินทางไปที่ใด แล้วค่อยเดินทางต่อไปที่ไหนบ้าง

วิธีการเพิ่ม Add Stop มีดังนี้

  1. พิมพ์สถานที่เริ่มต้นจุด A
  2. คลิกขีดสามขีด มุมบนขวา -> คลิก Add stop
  3. พิมพ์สถานที่ B, C, D…
  4. คลิก Done

เลือกเส้นทางผ่าน Route options ว่าจะขึ้นทางด่วนหรือไม่ ?

เลือกเส้นทางผ่าน Route options
เลือกเส้นทางผ่าน Route options บน Google Maps แบบไม่ขึ้นทางด่วน

Route options เป็นฟีเจอร์ที่ให้เราเลือกครับ ว่าต้องการให้แนะนำเส้นทางที่เราจะไปแบบขึ้นทางด่วนหรือไม่ เพราะโดยปกติแล้ว Google Maps จะตั้งค่าเส้นทางแบบขึ้นทางด่วนเอาไว้ เพื่อให้เดินทางถึงที่หมายอย่างรวดเร็วที่สุด

แต่บางคนก็ไม่ชอบขับรถขึ้นทางด่วน เพราะราคาแอบเอาเรื่องจริงมั้ยล่ะครับ การเปิดใช้ฟีเจอร์ Route options จึงตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้บริการทางด่วนเป็นอย่างมาก เมื่อเราเปิดใช้ Route options เส้นทางการเดินทางก็จะเปลี่ยนใหม่ทันทีครับ

วิธีการเปิดใช้ Route options ทำตามได้ดังนี้

  1. พิมพ์สถานที่เราจะไป
  2. คลิกขีดสามขีด มุมบนขวา
  3. คลิกเปิด Avoid tolls
  4. คลิกเปิด highways

เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล Map Type + Map Details ได้

Map Type บน Google Maps เป็นประเภทการแสดงผลของแอปครับ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ Google Maps แสดงผลเป็นแบบไหน โดยจะมีการแสดงผลหลัก 3 แบบด้วยกัน คือ

  • Default : การแสดงผลแบบแผนที่ทั่วไป
  • Satelite : การแสดงผลแบบแผนที่จริง ตามภาพที่ส่งมาจากดาวเทียม
  • Terrain : การแสดงผลแบบ 3D แต่ละพื้นที่จะมีมิติการมองเห็นที่แตกต่างกัน
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล Google Maps
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล Google Maps ผ่าน Map Type และ Map Detail

ส่วน Map Details จะเป็นการปรับรูปแบบแผนที่ด้านในเพิ่มเติมครับ เช่น บอกเส้นทางขนส่งสาธารณะ เส้นทางขี่จักรยาน มุมมองของคนที่เข้าไปยืนในแผนที่ ฯลฯ

สำหรับการปรับแต่ง Google Maps ทำตามได้ดังนี้

  1. เปิด App Google Maps
  2. คลิกสัญลักษณ์ Map Type ที่เป็นไอคอนอยู่ด้านล่างรูป Profile

ดูเส้นทาง Offline Maps แบบไม่ใช้เน็ตได้

ดูเส้นทาง Offline Maps แบบไม่ใช้เน็ต
ดูเส้นทาง Offline Maps แบบไม่ใช้เน็ต

การค้นหาเส้นทางการเดินทางผ่าน Google Maps เราสามารถดูแผนที่แบบ Offline ได้ครับ ซึ่งก่อนที่จะใช้งานฟีเจอร์ Offline Maps จำเป็นต้องวางแผนเส้นทางการเดินทางให้ดีเสียก่อน เพราะจะต้องดาวน์โหลดแผนที่เข้ามาอยู่ในข้อมูลของแอป จึงจะสามารถเปิดดูแผนที่แบบออฟไลน์ได้

แต่เอาจริง ๆ เราไม่ค่อยแนะนำฟีเจอร์นี้สักเท่าไหร่ครับ เพราะข้อมูลที่ดาวน์โหลดไว้ จะไม่เป็นแบบ Realtime แต่จะเป็นข้อมูลที่ใกล้เคียงกับวันที่เราโหลดข้อมูลเข้าไปแทน แถมยังเปลืองพื้นที่ทรัพยากรเครื่องอีกด้วย

ทำให้การใช้ Offline Maps จะเหมาะกับการเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตซะมากกว่าครับ

วิธีเปิดใช้งาน Offline Maps มีดังนี้

  1. เข้าแอป Google Maps
  2. คลิกรูปโปรไฟล์มุมบนขวา -> คลิก Offline Maps
  3. เริ่มดาวน์โหลดแผนที่เส้นทางที่ต้องการ

อยู่ไหนรู้หมด ดูได้ผ่าน Location Sharing

Google Maps Location Sharing
Google Maps Location Sharing

หากจะว่าไปแล้ว ฟีเจอร์ Location Sharing ค่อนข้างคล้ายกับฟีเจอร์แชร์โลเคชั่น Messenger เลยแหละครับ โดยเป็นการแชร์ตำแหน่งของเรา ณ เวลานี้ ให้กับคนอื่นดูได้แบบ Realtime ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ! ซึ่งสามารถแชร์ได้ผ่านช่องทาง Social Media ต่าง ๆ

แถมยังเลือกได้อีกด้วยว่าต้องการแชร์ตำแหน่งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือจะแชร์ตำแหน่งจนกว่าตัวเราจะปิดการแชร์ไปเอง เหมาะมาก ๆ กับคนที่เดินทางกลับคนเดียวโดยรถแท็กซี่ หรือเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว

วิธีการใช้ Location Sharing ทำตามได้ดังนี้

  1. เข้าแอป Google Maps
  2. คลิกรูปโปรไฟล์มุมบนขวา
  3. คลิก Location Sharing
  4. คลิก Share Location -> เลือกระยะเวลาการแชร์
  5. คลิกเลือกแชร์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลย

ค้นหาเส้นทางแบบไม่ระบุตัวตน ไม่บันทึกข้อมูลได้ผ่าน Incognito Mode

Google Maps โหมด Incognito Mode
การใช้งาน Google Maps โหมด Incognito Mode

Incognito Mode เป็นโหมดการค้นหาเส้นทางต่าง ๆ แบบไม่ระบุตัวตน และไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลครับ ทำให้คนอื่นไม่รู้ว่าเราเดินทางไปยังสถานที่ใดมาบ้าง คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวรับรองว่าต้องชอบการใช้งาน Google Maps โหมดไม่ระบุตัวตนแน่นอนครับ

วิธีใช้งาน Incognito Mode มีดังนี้

  1. เข้าแอป Google Maps
  2. คลิกรูปโปรไฟล์มุมบนขวา
  3. คลิก Turn on Incognito Mode

Google Maps VS Google My Maps ต่างกันอย่างไร ?

Google Maps = ช่องทางสำหรับค้นหาสถานที่จากจุด A ไปยังจุด B ที่แสดงเส้นทางผ่านการเดินทางในรูปแบบต่าง ๆ 

Google My Maps = ช่องทางสำหรับวางแผนการเดินทาง ที่มีการแวะพักหลากหลายจุด โดยสามารถวางแผนได้ว่าจะไปที่ไหน นอนพักที่ไหน กินข้าวร้านไหน อารมณ์เหมือนกับคู่มือแพลนทริปเที่ยวครับ

ความแตกต่างระหว่าง Google Maps และ แอปแผนที่อื่น

สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่าง Google Maps และ แอปแผนที่อื่น คือ ความสะดวกสบายในด้านการใช้งานแอปพลิเคชัน ที่มีความแม่นยำกว่าในเรื่องของการคำนวณเส้นทาง การประมาณการความหนาแน่นของจราจร แถมยังมีการแนะนำเส้นทางเจ๋ง ๆ เป็นทางเลือกอีกด้วย

ที่สำคัญ คือ ฐานข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ จาก Google Maps มีขนาดใหญ่ ทำให้ค้นหาสถานที่ใด ๆ ก็เจอ มีแนะนำการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ละเอียดกว่าอย่างชัดเจน จึงไม่แน่แปลกใจครับ ว่าทำไม Google Maps ถึงเป็นแอปแผนที่นำทาง ที่คนเกือบทุกคนมีติดเครื่องเอาไว้

ดาวน์โหลด Google Maps จากไหน ?

ดาวน์โหลด Google Maps ได้หลายช่องทาง ดังนี้

สรุปเรื่อง Google Maps คืออะไร ?

หากเรานึกถึงแอปนำเส้นทาง เราเชื่อว่าเจ้า Google Maps เป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงแน่นอน เพราะการใช้งานของเจ้าตัวนี้มีความ Friendly ให้ข้อมูลเส้นทางได้ละเอียด ครอบคลุม และมีความแม่นยำสูง หากเทียบกับแอปแนะนำเส้นทางแผนที่อื่น ๆ แล้ว ก็ยังไม่มีแอปตัวไหนที่ล้มล้าง Google Maps ได้เลยจริงมั้ยล่ะครับ ?