อะแดปเตอร์ คืออะไร มีหน้าที่อะไรบ้าง พร้อมสิ่งที่ควรรู้ก่อนการใช้งาน

อะแดปเตอร์ (Adapter) กลายเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความจำเป็นอย่างมาก ในยุคนี้ หลายคนเคยได้ยินชื่อคุ้นหูหรือเคยเห็นผ่านตามาก่อน แต่ไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนั้นคืออะแดปเตอร์ อยากรู้ไหมว่าแท้จริงแล้วอะแดปเตอร์ คืออะไร หน้าที่การทำงานเป็นอย่างไร ถ้าจะเลือกซื้ออะแดปเตอร์ชาร์จมือถือ เลือกแบบไหนดีที่สุด ห้ามพลาดเลยเด็ดขาด เพราะเราจะมาไขคำตอบ พร้อมแนะนำแนวทางดี ๆ ในการเลือกอะแดปเตอร์ให้ผู้อ่านเว็บไซต์ Itnews24hrs ได้ทราบกันค่ะ

อะแดปเตอร์ คืออะไร ?

อะแดปเตอร์ คือ อุปกรณ์ชาร์จไฟหรือเรียกว่า “หัวชาร์จ” การทำงานของอะแดปเตอร์จะแปลงแรงดันไฟฟ้าที่สูงถึง 220 โวลต์ให้กลายเป็นแรงดันไฟฟ้าต่ำประมาณ 5-20 โวลต์ ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทำงานได้ตามปกติ อะแดปเตอร์ถือได้ว่าเป็นแหล่งจ่ายไฟภายนอก ปัจจุบันมีทั้งอะแดปเตอร์โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป ฯลฯ

 หน้าที่อะแดปเตอร์ มีอะไรบ้าง ?

• แปลงแรงดันไฟฟ้าสูงให้เป็นแรงดันต่ำ
• แปลงกระแสไฟฟ้าจากกระแสสลับให้เป็นกระแสตรง
• อะแดปเตอร์ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทำงานได้ตามปกติ

ก่อนใช้งาน Adapter จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ?

1.รู้ประเภทอุปกรณ์

ปัจจุบันเวลาที่เราไปซื้อคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป หรือโทรศัพท์มือถือมักจะแถมอะแดปเตอร์มาในกล่องให้ด้วย ยกเว้นบางรุ่นหรือบางแบรนด์ ที่อาจไม่มีแถม ทำให้เราต้องไปซื้อแยกต่างหาก หรือถ้าอะแดปเตอร์อันเก่าพังเราต้องไปซื้อใหม่ ก่อนที่จะซื้ออะแดปเตอร์มาใช้งานเราจำเป็นต้องรู้ว่าอุปกรณ์ของเราคืออะไร เป็นอุปกรณ์ประเภทไหนจะได้เลือกอะแดปเตอร์ได้ถูกต้อง

2.รู้จักกับ Amps

Amps หรือ แอมป์ คือ แรงดันของกระแสไฟที่วิ่งไปยังแบตเตอรี่ โดยมีค่าไฟเข้า-ไฟออก หรือ Input-Output เมื่อเรานำอะแดปเตอร์หรือหัวชาร์จไปเสียบปลั๊กไฟ ไฟจะวิ่งเข้าไปที่หัวชาร์จ และเมื่อเรานำสายชาร์จต่อจากอะแดปเตอร์มายังโทรศัพท์มือถือ ไฟจะออกจากหัวชาร์จมายังโทรศัพท์มือถือนั่นเอง ในอดีตค่าแอมป์มาตรฐาน คือ 1.0 Amps ปัจจุบันอัปเดตมาให้เร็วกว่าเดิม แนะนำแบบมาตรฐาน 2.0 Amps-2.4 Amps  หรือเลือกตั้งแต่ 2 Amps ขึ้นไป

3.รู้จักกับ Voltage และ Input-Output

Voltage หรือ โวลต์ คือค่าแรงดันที่ชาร์จให้กับแบตเตอรี่ มาตรฐาน คือ 5 โวลต์ ปัจจุบันสายชาร์จแบบ Fast Charge จะต้องสังเกตที่โวลต์ด้วย ไม่ใช่แค่ดูที่แอมป์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น สำหรับค่า Input เป็นค่าของการชาร์จไฟ ส่วนค่า Output เป็นค่าการจ่ายไฟที่ชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ค่า Output เช่น 5V / 2.0A ค่า Input เช่น 5V / 2.1A 

วิธีเลือกอะแดปเตอร์ชาร์จมือถือ ต้องดูอย่างไร ?

1.ดูว่าเข้ากับอุปกรณ์ได้ไหม

เลือกอะแดปเตอร์ชาร์จมือถือที่เข้ากับอุปกรณ์ของคุณได้ ให้สังเกตที่ช่อง USB ซึ่งมีทั้งแบบ USB-C และ USB-A โดย USB-A รองรับการใช้งานทั้ง iPhone iPad รวมถึง Smartphone บางรุ่นที่ทันสมัยจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 ทำให้ชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

สำหรับหัวชาร์จแบบ USB-C ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นใช้งานอย่างแพร่หลาย รองรับการจ่ายไฟมากกว่า ชาร์จได้เร็วด้วย Power Delivery  รองรับการใช้งานทั้ง Smartphone, iPhone, iPad, Tablet และ Nintendo สำหรับไอโฟนรุ่นใหม่ ๆ ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาใช้ USB-C เป็นที่เรียบร้อย และถ้าจะให้ดีเพื่อความคุ้มค่าคุณอาจเลือกอะแดปเตอร์ที่มีช่องเสียบทั้ง 2 แบบเลยก็ได้

คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีแก้เมื่อรูชาร์จไอโฟนหลวม ต้องเปลี่ยนใหม่หรือไม่ แล้วราคาเท่าไหร่ ?

2.ดูค่า Volt, Amps, Input, Output

การจะเลือกหัวชาร์จสักอันต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Volt, Amps, Input, Output คืออะไร เลือกแบบไหนดีที่สุด ตามที่เราแนะนำไปข้างต้น แอมป์แนะนำให้เลือกที่มีแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่ 2.0 Amps ขึ้นไป ส่วนค่าโวล์ตมาตรฐานอยู่ที่ 5 Volt ถ้าเป็นหัวชาร์จเร็วต้องดูทั้ง V, A ว่ามีอินพุตและเอ้าท์พุตเท่าไหร่ Input ค่าการชาร์จไฟเข้าหัวชาร์จ ค่ายิ่งเยอะยิ่งชารจ์เร็ว ส่วน output ค่าการจ่ายไฟเข้าสู่อุปกรณ์ อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบว่ามือถือของเราว่ารองรับการชาร์จกี่วัตต์ หลักการง่าย ๆ เลือกหัวชาร์จที่มีวัตต์เท่ากันหรือสูงกว่า

3.เลือกหัวชาร์จที่มีมาตรฐาน

ข้อนี้สำคัญมากเลือกอะแดปเตอร์ที่มีมาตรฐานการรองรับเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน โดยให้สังเกตที่สัญลักษณ์มาตรฐานหรือแหล่งผลิต เช่น CE ผ่านการรับรองจากสหภาพยุโรปว่าปลอดภัย FCC ผ่านการรับรองคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารจากอเมริกา RoHs มาตรฐาน เพื่อสิ่งแวดล้อมของยุโรป หรือจะเป็น CCC มาตรฐานในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของคนสัตว์ สิ่งแวดล้อม

4.หัวชาร์จที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพ

เลือกหัวชาร์จที่มีคุณภาพผลิตจากวัสดุเกรดดี เช่น ผลิตจากพีวีซี มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ทนต่อแรงกระแทก และทนต่อความร้อนได้ดีนอกจากนั้นยังมีน้ำหนักเบาทำให้พกพาสะดวกด้วย เนื่องจากเมื่อเราชาร์จไปนาน ๆ อะแดปเตอร์อาจมีความร้อนสะสม ถ้าเป็นพลาสติกทั่วไป ไม่มีมาตรฐาน เสี่ยงทำให้หัวชาร์จระเบิดมีอันตรายตามม าหรือนำไปสู่การเกิดอัคคีภัยได้ 

สรุปเรื่องการใช้งานอะแดปเตอร์ 

อะแดปเตอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ การจะเลือกซื้ออะแดปเตอร์สักอัน ต้องดูว่าอะแดปเตอร์เข้ากับอุปกรณ์ของเราได้ไหม ช่องเสียบเป็นแบบไหน ศึกษาเรื่อง mAh, Amps, Voltage และ Input-Output ไว้สักนิดก็ดี ที่สำคัญเลือกหัวชาร์จที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพ มีมาตรฐานรองรับในระดับสากลเพื่อความปลอดภัยต่อการใช้งาน