โทรศัพท์มีเสียงช็อต
อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนเจอบ่อยตอนโทรคุยกับคนปลายสาย คือ โทรศัพท์มีเสียงช็อต เสียงซ่า ๆ แปลก ๆ แทรกเข้ามา ทำให้เราไม่แน่ใจครับ ว่าเสียงเหล่านี้เกิดจากอะไรกันแน่
ในบทความนี้ Itnews24hrs จะมาสรุปสาเหตุที่ทำให้โทรศัพท์มีเสียงช็อต พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้น แบบที่ทำตามเองได้จริง ติดตามได้ผ่านบทความนี้ครับ
ทำไมโทรศัพท์มีเสียงช็อต เกิดจากอะไร ?
สาเหตุที่ทำให้โทรศัพท์มีเสียงช็อต มีเสียงซ่า ๆ ขณะโทรศัพท์คุย เราขอสรุปดังนี้
- สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ไม่เสถียร
- มีคลื่นสัญญาณอื่น ๆ แทรก ทำให้เกิดเสียงรบกวน
- ลำโพงโทรศัพท์ที่ใช้งานเกิดปัญหา
- มีสิ่งอุดตันอยู่ในบริเวณลำโพงโทรศัพท์
- ไมค์หูฟังที่เชื่อมต่อโทรศัพท์ช็อต ใช้งานได้ไม่ปกติ
ใช้งานโทรศัพท์มีเสียงช็อต อันตรายหรือไม่ ?
เอาจริง ๆ แล้ว การใช้งานโทรศัพท์มีเสียงช็อตไม่ได้เป็นอันตรายครับ
เพียงแต่จะสร้างความรำคาญ และทำให้การสนทนาระหว่างเรา กับ ผู้ที่อยู่ปลายสายขัดข้อง ได้ยินเสียงกันและกันไม่ชัดเจน
แต่หากเป็นโทรศัพท์มีเสียงช็อตมีเสียงวี๊ดลากยาว ติดต่อกันช่วงเวลานึง อาจจะส่งผลกระทบต่อแก้วหูเราได้ครับ
วิธีแก้โทรศัพท์มีเสียงช็อต ตอนโทรคุย ต้องทำยังไง ?
1. สังเกตอาการว่าเป็นตลอดเวลาที่โทรคุยหรือไม่
ถ้าพบว่าโทรศัพท์มีเสียงช็อตให้เราลองสังเกตตอนโทรคุยดูครับ ว่าเป็นแค่คนใดคนหนึ่งหรือไม่ ?
หากเป็นแค่สายนั้นสายเดียว เสียงช็อตจากโทรศัพท์ที่เราได้ยิน อาจมาจากทางฝั่งของเขาครับ เช่น สัญญาณในพื้นที่ของเขาขัดข้อง มีคลื่นเสียงแทรก และมีความเป็นไปได้ที่ไมค์ฝั่งเขาเกิดปัญหา ส่งผลให้เราได้ยินเสียงช็อตครับ
แต่ถ้าไม่ว่าจะคุยกับใครก็ตาม แล้วได้ยินเสียงช็อตตลอดเวลา ปัญหาก็จะเกิดจากฝั่งของเราแทนครับ
2. พักการคุยสาย หรือตัดสายแล้วโทรคุยใหม่
การที่โทรศัพท์มีเสียงช็อตอาจมาจากการถูกคลื่นแทรก หรือสัญญาณขัดข้องครับ ทำให้เราได้ยินเสียงดังกล่าวตอนพูดคุยสนทนากัน
เราขอแนะนำให้ลองหยุดพักสายแล้วค่อยคุยใหม่อีกรอบ หรืออาจจะวางสายไปเลย แล้วรอประมาณ 3-5 นาที จากนั้นค่อยโทรคุยใหม่ดูครับ
3. รีสตาร์ทโทรศัพท์ใหม่อีกรอบ
วิธีแก้ในข้อนี้ เราขอเรียกว่าเป็นท่าไม้ตายตายครับ!
เพราะไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่เราควรทำ คือ การรีสตาร์ทมือถือ จากนั้นค่อยทดลองโทรศัพท์ใหม่อีกรอบ เนื่องจากบางครั้งระบบโทรศัพท์ หรือ Software เกิดความขัดข้องชั่วคราว ส่งผลให้โทรศัพท์มีเสียงช็อต จนเราได้ยินขณะโทรคุยกันครับ
คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีรีสตาร์ทไอโฟน (Restart iPhone) ต้องทำอย่างไร ?
4. เช็กว่าเสียงช็อตมาจากลำโพง หรือ หูฟัง
หลายครั้งพบว่าเรามักได้ยินโทรศัพท์มีเสียงช็อตตอนที่ใส่หูฟังคุยโทรศัพท์ครับ
ที่เป็นเช่นนั้น ก็มีความเป็นไปได้ ว่าเกิดปัญหากับตัวไมค์ในหูฟัง ส่งผลให้เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง หรือมีเสียงไม่ชัดเจน มีเสียงแปลก ๆ แทรกเข้ามา หากเป็นเช่นนี้ เราขอแนะนำว่าให้ถอดหูฟังแล้วทดสอบด้วยการฟังเสียงผ่านลำโพงมือถือดูครับ ว่าเสียงช็อตตอนโทรคุยยังมีอยู่หรือไม่
หากลำโพงโทรศัพท์มีเสียงช็อต ก็ให้ลองเสียบหูฟังดูครับ ทำแบบนี้สลับกันไป เพื่อเช็กให้ชัวร์ว่าเสียงช็อตมากจากไหน แต่หากทำทั้ง 2 อย่าง แล้วพบว่ายังได้ยินเสียงช็อตทั้งคู่ ก็เป็นไปได้ที่ตัว Software ของเราอาจเกิดปัญหาครับ
5. ทดสอบการคุยผ่านการสลับปิด-เปิดสัญญาณเน็ต / สัญญาณโทรศัพท์
ช่วงไหนที่ฝนตก มีพายุ เรามักเจอปัญหาสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดีครับ ทำให้ได้ยินเสียงแปลก ๆ ซ่า ๆ ไปจนถึงได้ยินเสียงช็อตตอนคุย
หากเป็นเช่นนี้ เราขอแนะนำให้ลองโทรคุยผ่านทางอินเตอร์เน็ตแทนครับ เช่น โทรไลน์ โทรเฟซบุ๊ก โทรทางไอจี ก็จะช่วยให้การสนทนาราบรื่นขึ้น
กลับกันหากโทรผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต แล้วได้ยินเสียงไม่ชัดเจน ก็ให้สลับกลับมาโทรผ่านสัญญาณมือถือแทนครับ
6. เช็ดทำความสะอาดลำโพงโทรศัพท์
เมื่อใช้งานโทรศัพท์ไปสักพัก เศษฝุ่นละออง ผงเล็ก ๆ อาจเข้าไปอุดตันบริเวณช่องลำโพงได้ครับ ส่งผลให้เวลาคุยโทรศัพท์ได้ยินเสียงไม่ชัดเจน หรือได้ยินเสียงแปลก ๆ เพราะสิ่งอุดตันพวกนี้ขวางบริเวณลำโพงรับเสียงเอาไว้
ฉะนั้นแล้วเราควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์ รวมถึงบริเวณลำโพง ช่องพอร์ตเสียบเป็นประจำ เพื่อป้องกันเศษฝุ่นอุดตันบริเวณดังกล่าว จนทำให้โทรศัพท์มีเสียงช็อต หรือเสียงแปลก ๆ ครับ
7. นำโทรศัพท์เข้าศูนย์บริการ
หากลองทำตามทุกวิธีแล้ว แต่ยังพบว่าโทรศัพท์มีเสียงช็อตอยู่ มีความเป็นไปได้ครับว่าเกิดปัญหาด้าน Software เราจึงขอแนะนำให้รีบนำโทรศัพท์เข้าศูนย์บริการ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กครับ
ซึ่งเราไม่ควรแกะโทรศัพท์มาซ่อมเองโดยเด็ดขาด!
สรุปเรื่องโทรศัพท์มีเสียงช็อต
ปัญหาโทรศัพท์มีเสียงช็อตเกิดได้หลายสาเหตุครับ เราจึงควรแยกให้ออกว่าเสียงช็อตมือถือที่ได้ยินขณะคุย เกิดเพียงชั่วเวลาสั้น ๆ หรือว่าลากยาว หากเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ มีความเป็นไปได้ครับว่าอาจถูกคลื่นแทรก หรือสัญญาณมือถือในพื้นที่ไม่เสถียร
แต่หากโทรศัพท์มีเสียงช็อตวี๊ดลากยาว และดังติดต่อกันนานพอตัว เราขอแนะนำให้ส่งมือถือเข้าศูนย์บริการ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลครับ เพราะมีโอกาสสูงที่อุปกรณ์ภายในจะเกิดความเสียหาย