7 Cloud Storage น่าใช้ เก็บรูปไว้ที่ไหนดี ซื้อความจุได้เยอะ ภาพไม่หาย

ในยุคนี้เราเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้มากมาย เช่น ไฟล์เอกสาร คลิปวิดีโอ และไฟล์รูปภาพก็เช่นกัน แต่การเก็บไฟล์ในยุคนี้จะแตกต่างกับการเก็บข้อมูลในยุคก่อน เพราะจะทำการเก็บข้อมูลผ่าน Cloud Storage 

และเมื่อนึกถึงการเก็บรูปภาพ บางคนอาจจะคิดถึงการเก็บภาพด้วย Google Photos แต่ปัจจุบันนี้การเก็บรูปภาพด้วย Google Photos จะมีการจำกัดพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูล ทำให้ผู้ใช้งานบางคนอาจจะเกิดความกังวลได้ว่าควรเก็บรูปไว้ที่ไหนดี ในบทความนี้ itnews24hrs จะมาแนะนำให้ได้อ่านกันว่าควรเก็บรูปไว้ที่ไหนดี มี Cloud Storage เจ้าไหนบ้างที่น่าสมัครใช้บริการเพื่อเก็บรูปภาพและไฟล์ต่าง ๆ

ทำความรู้จัก Cloud Storage คืออะไร

Cloud Storage คือ พื้นที่เก็บข้อมูลแบบออนไลน์ สามารถอัปโหลด แก้ไข ลบไฟล์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ Cloud Storage สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์การใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็สามารถเข้าใช้งาน Cloud Storage ได้แบบรวดเร็ว ขอเพียงแค่มีการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตเท่านั้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : มีสัญญาณ WIFI แต่เชื่อมต่อไม่ได้ มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง

เก็บรูปไว้ที่ไหนดี ภาพไม่หาย ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง

1.Google Drive (Google One)

Google Drive เป็นบริการพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างครบครันจาก Google ซึ่งเป็น Search Engine ที่เรารู้จักและนิยมใช้งานในปัจจุบันนี้ สำหรับการใช้งาน Google Drive ผู้สมัครใช้บริการ Gmail จะได้รับสิทธิ์การเข้าใช้งาน Google Drive ได้แบบฟรี ๆ อยู่ที่ 15 GB แต่หากมีการเก็บข้อมูลเกินที่กำหนด จำเป็นจะต้องลบข้อมูลออก หรือไม่ก็สมัครใช้บริการ Google One ซึ่งราคาแพ็คเกจจะมีดังนี้

แพ็คเกจ	ความจุ	ราคา/เดือน
พื้นฐาน	100 GB	70 บาท
มาตรฐาน	200 GB	99 บาท
พรีเมียม	2 TB	350 บาท

2.Dropbox

Dropbox เป็นแอปพลิชันที่ขึ้นชื่อเรื่องการแบ็คอัพเก็บไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ มีการอัปเดตฟังก์ชันการใช้งาน และ Interface เพื่อให้มีความ Friendly กับผู้ใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง สามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ และแชร์ข้อมูลให้กับผู้อื่นได้อย่างสะดวกและมีความปลอดภัยสูง สำหรับคนที่สมัครใช้บริการ Dropbox จะได้พื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 2 GB และสามารถทำ Mission ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้ ซึ่งราคาค่าบริการ Dropbox จะมีดังนี้

แพ็คเกจ	ความจุ	ราคา/เดือน
Plus (บุคคลทั่วไป)	2 TB	9.99 USD
Family (ผู้ใช้หลายราย) สูงสุด 6 คน	2 TB	16.99 USD

3.Flickr

Flickr เป็นแอปพลิเคชันเก็บรูปในเครือ Yahoo! สำหรับใครที่สมัครใช้บริการอีเมลจาก Yahoo! อยู่แล้ว ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณจะสามารถใช้บริการแอป Flickr ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปสมัครใช้งานใหม่ หน้าตาของแอปจะมีความคล้ายคลึงกับ Printerest 

แม้ว่า Flickr จะเปิดให้บริการเก็บรูปฟรีแบบไม่จำกัดความจุไฟล์ แต่แน่นอนว่าของฟรีไม่มีในโลก เพราะภาพเหล่านั้นจะถูกบีบอัดจนทำให้คุณภาพรูปเสียหายได้ ใครที่ต้องการใช้แอป Flickr เก็บรูป ก็ขอแนะนำให้สมัครใช้บริการแบบโปรจะดีกว่า ซึ่งค่าบริการ Flickr จะมีดังนี้

แพ็คเกจ	ราคา
Monthly Plan	8.49 USD/เดือน
Annual Plan	6.67 USD/เดือน (เก็บแบบรายปี)
2 Year Plan	5.99 USD/เดือน (เก็บแบบราย 2 ปี)

4.iCloud

สำหรับใครที่เป็นสาวก Apple การเลือกใช้บริการพื้นที่เก็บข้อมูล iCloud ก็ถือว่ามีความสะดวกสบายสุด ๆ เพราะสามารถ Sync เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Macbook, iPhone และ iPad ได้แบบเรียลไทม์ ชนิดที่ว่าถ่ายรูปผ่าน iPhone คุณก็สามารถดูรูปภาพจาก iPad อีกเครื่องที่ได้เชื่อมต่อด้วยบัญชีเดียวกันได้ 

แต่แน่นอนว่าการใช้งาน iCloud จำเป็นต้องสมัครพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม เพราะแผนให้บริการเริ่มต้นเก็บข้อมูลไม่น่าจะเพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ iCloud เต็ม เพราะใช้ฟรีได้แค่ 5 GB เท่านั้นเอง สำหรับค่าบริการ iCloud จะมีดังนี้

ความจุ	ราคา
50 GB	35 บาท/เดือน
200 GB	99 บาท/เดือน
2 TB	349 บาท/เดือน

5.Microsoft OneDrive

OneDrive เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft สามารถจัดเก็บรูปภาพ ไฟล์เอกสารได้อย่างสะดวก และทำให้ง่ายต่อการใช้งานต่าง ๆ อีกด้วย Interface การใช้งาน OneDrive จะมีความคล้ายคลึงกับการใช้งานอีเมลใน Outlook มีการแบ่งแยกประเภทไฟล์ต่าง ๆ อย่างชัดเจน และยังเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีความคุ้มค่ามาก ๆ เพราะสมัครใช้งานได้ฟรี แต่หากมีรูปภาพหรือไฟล์ต่าง ๆ ขนาด 100GB ขึ้นไปจำเป็นจะต้องสมัครใช้บริการแบบพรีเมี่ยม โดยค่าบริการ OneDrive จะมีดังนี้

แพ็คเกจ	ความจุ	ราคา/เดือน
Microsoft 365 Basic	100 GB	69 บาท
Microsoft 365 Personal	1 TB	209 บาท
Microsoft 365 Family	6 TB	289 บาท

6.TeraBox

TeraBox มีชื่อเดิมว่า DuBox เป็นแอปที่สามารถใช้เก็บไฟล์ต่าง ๆ รวมถึงรูปภาพได้อย่างจุใจ บริการ TeraBox แบบฟรีเก็บข้อมูลได้มากมากถึง 1 TB หรือจำนวน 500 ไฟล์  อัปโหลดไฟล์เดี่ยว ๆ ได้สูงสุดแค่ 4 GB ใครที่ต้องการอัปโหลดข้อมูลหรือจัดเก็บรูปภาพไม่มีขีดจำกัดด้านการอัปโหลด เราก็ขอแนะนำให้สมัครใช้บริการ TeraBox แบบเสียเงิน เพราะจะตอบโจทย์ด้านการใช้งานมากกว่า โดยค่าบริการ TeraBox จะมีดังนี้

ความจุ	ราคา
2 TB	139 บาท/เดือน

7.pCloud

pCloud เป็นแอปสำหรับจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ รวมถึงรูปภาพ ที่มี Interface การใช้งานคล้าย ๆ กับ TeraBox และ DropBox ทำให้ใช้งานอัปโหลดไฟล์ จัดเรียงข้อมูลใน Cloud ได้อย่างสะดวก ผู้ใช้งานสามารถสมัครใช้งาน pCloud ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และจะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็ต่อเมื่อคุณต้องการอัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า 500 GB ซึ่งค่าบริการ pCloud จะมีดังนี้

แพ็คเกจ	ความจุ	ราคา/ปี
Premium 500 GB	500 GB	49.99 USD
Premium Plus	2 TB	99.99 USD

ใครที่ลังเลว่าจะเก็บรูปไว้ที่ไหนดีนอกจาก Google Photo ก็สามารถเลือกผู้ให้บริการ Cloud Storage เจ้าต่าง ๆ ตามที่เราแนะนำได้เลยนะคะ แต่หากให้เราแนะนำจริง ๆ การสมัครพื้นที่เก็บข้อมูลจาก Google One, iCloud, OneDrive และ DropBox ก็ถือว่ามีความสะดวก และง่ายต่อการใช้งานมากกว่า แถมยังมีความเป็น Worldwide อีกด้วย ยังไงก็ลองตัดสินใจกันดูน้าาา