หน้าจอคอมไม่ติด
ปัญหาหน้าจอคอมไม่ติดเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้ เมื่อพบกับปัญหาหน้าจอดำก็ไม่รู้ว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไรดี มีสาเหตุมาจากอะไร และเชื่อว่าใครที่พบเจอกับปัญหานี้ก็คงจะหัวอุ่น ๆ กันไม่น้อย ซึ่งวันนี้ Itnews24hrs.com ก็จะพาคุณไปรู้จักกับสาเหตุที่ทำให้หน้าจอไม่ พร้อมกับบอก 7 วิธีการแก้ไขหน้าจอคอมไม่ติดที่ทำได้ตามจริง
สาเหตุหน้าจอคอมไม่ติด เกิดจากอะไร ?
- มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากไม่มีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปเกาะกันอยู่ภายในเครื่องจนทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์รวน ไม่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน
- สายไฟขาด สายไฟหลุด เป็นสาเหตุที่มักจะเกิดบ่อย ๆ กับคนที่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นประจำหรือปลั๊กไฟหลวม
- การเสื่อมสภาพของสายสัญญาณ เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้สูง เนื่องจากมีการใช้งานมาอย่างยาวนาน หรืออยู่ใกล้กับความชื้นและความร้อนสูง
- พอร์ตสัญญาณพัง เกิดการใช้งานที่ไม่ทะนุถนอม สายพันกัน มีการเคลื่อนย้ายจอไปมาบ่อย ๆ สายถูกกระชากอย่างรุ่นแรง หรือแม้แต่การทำความสะอาดก็อาจทำให้พอร์ตสัญญาณพังได้
- คอมพิวเตอร์ผิดปกติ โดยสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากการที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใช้งานแล้วดับเป็นระยะ มีการรีสตาร์ทวนไปเรื่อย ๆ
- จอคอมพิวเตอร์เสียหาย มักจะเกิดอาการจอมีไฟกระพริบ เปิดไม่ติด ไฟเข้าแต่ไม่สามารถแสดงผลได้ ซึ่งเมื่อพบอาการแบบนี้ก็เตรียมตัวโบกมือลาจอคอมเครื่องเก่าและมองหาจอคอมเครื่องใหม่ได้เลย
- เกิดจากความร้อน เมื่อคอมพิวเตอร์ทำงานหนักมาก ๆ ก็มักจะมีความร้อนสูงทำให้การทำงานขัดข้อง ฮาร์ดแวร์เกิดความเสียหายได้ และทำให้คอมเกิดอาการจอดำได้
วิธีแก้จอคอมไม่ติด ต้องทำอย่างไร ?
1.เช็ดทำความสะอาดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับปัญหานี้เป็นเรื่องที่หลายคนมักจะมองข้ามไป เมื่อมีการใช้งานคอมเป็นระยะเวลานานและไม่มีการความสะอาดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้ภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเกิดปัญหา มีอาการรวนตามมาได้ เพราะจะมีฝุ่นเข้าไปเกาะรวมตัวกัน ทำให้ต้องหมั่นทำความสะอาด เพื่อทำให้สามารถใช้งานคอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ตรวจสอบสายไฟ
เมื่อพบว่าจอคอมไม่ติด การตรวจสอบสายไฟเป็นสิ่งที่แรกควรทำ เพราะสายไฟอาจจะหลุด หรือขาดในขณะที่เราไม่ได้ใช้งาน เมื่อทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็ให้ลองขยับสายไฟ ถอดและเสียบปลั๊กใหม่ดูว่าจอติดแล้วหรือยัง
3.ตรวจสอบสายสัญญาณ
หากตรวจสอบสายสัญญาณแล้วพบว่าเกิดความเสียหาย ก็ขอแนะนำให้เลือกซื้อสายสัญญาณเส้นใหม่ เพราะอาการนี้มักจะเกิดความเสียหายมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
4.ตรวจสอบพอร์ตสัญญาณ
ลองทำการเช็คตรวจสอบพอร์ตสัญญาณดูว่าเกิดความเสียหายในจุดไหนบ้าง หากพบว่าเกิดความเสียหายที่พอร์ตสัญญาณก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะแค่หาสายพอร์ตเส้นใหม่มาเปลี่ยน เพียงแค่นี้ก็สามารถกลับมาใช้งานเหมือนเดิม
5.ยกไปให้ร้านซ่อมแซม
สำหรับเคสนี้เรียกได้ว่าดีกว่าเคสอื่น ๆ เพราะไม่ต้องมานั่งไล่หาสาเหตุให้วุ่นวาย เพียงแค่ยกไปให้ร้านผู้เชี่ยวชาญช่วยซ่อมแซมและหาสาเหตุให้ แต่ข้อเสียก็คือจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมให้กับร้านซ่อม และสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย คือ ควรจะเลือกใช้บริการกับร้านที่มีความน่าเชื่อถือและมีความเชี่ยวชาญด้วย
6.ตรวจสอบพัดลม
สำหรับพัดลมเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากควรตรวจเช็คว่าพัดลมยังทำงานได้ปกติหรือไม่ ถ้าพัดลมเสียก็ให้เปลี่ยนใหม่ แต่หากเปลี่ยนแล้วก็ยังพบกับปัญหาเดิม ๆ ก็แสดงว่า CPU หรือ Graphic Card อาจจะมีปัญหา
7.ตรวจสอบ Graphic Card
ตรวจสอบ Graphic Card โดยหากมีการต่อสายสัญญาณจาก Graphic Card มาแล้วไม่สามารถใช้งานได้ ให้ทำการถอด Graphic Card ออกแล้วไปต่อที่พอร์ตบนเมนบอร์ดโดยตรง หากสามารถใช้งานได้ตามปกติ นั่นก็หมายความว่า Graphic Card เสียแล้วนั่นเอง
คอมจอดำแต่เครื่องติด เกิดจากอะไร ? พร้อมวิธีแก้
การที่คอมพิวเตอร์จอดำแต่เครื่องติด ส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาจากอุปกรณ์หรือฮาร์ดแวร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้เกิดปัญหาจอดำแต่เครื่องยังคงติดและทำงานอยู่ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดจอดำแต่เครื่องติดอยู่นั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น สายเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับจอไม่แน่น เสียบไม่ถูก ตัวจ่ายไฟเกิดปัญหา โดยมีวิธีการแก้ไข ดังนี้
- ตรวจสอบการ์ดจอ ให้ถอดออกแล้วเสียบใหม่และลองเปิดดูใหม่อีกครั้ง
- ถอด RAM มาทำความสะอาดและเสียบเข้าไปใหม่
- สังเกตเสียงจากการแจ้งเตือนของ Bios (Beep Code)
- หากตัวจ่ายไฟ เมนบอร์ด หรือ CPU เกิดปัญหาจำเป็นต้องให้ช่างหรือซื้อมาเปลี่ยนใหม่
สรุปเรื่องคอมหน้าจอไม่ติด
สำหรับปัญหาหน้าจอคอมไม่ติด ถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ สำหรับคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์มาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งหากเกิดปัญหาหน้าจอดำและลองทำตามวิธีการแก้ไขข้างต้นแล้วแต่ยังไม่หาย นั่นก็แสดงว่าอาจจะเกิดปัญหาอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือความสามารถที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง จึงควรส่งซ่อมจอคอมพิวเตอร์กับผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยแก้ไขปัญหา เพื่อทำให้หน้าจอสามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม