มัลแวร์
ไวรัสมัลแวร์ (Malware) เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อทำหน้าที่ควบคุมหรือสร้างความเสียหาย ให้กับโปรแกรมและระบบของคอมพิวเตอร์ รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพในการเรียกค่าไถ่ เพื่อแลกกับข้อมูลที่อยู่ในระบบครับ
ในบทความนี้ Itnews24hrs จะพาไปทำความรู้จักว่ามัลแวร์ คืออะไร มีกี่ประเภท พร้อมแนะนำแนวทางการป้องกันมัลแวร์ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นแบบโดยที่เราเอง อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำครับ !
ไวรัสมัลแวร์ คืออะไร ?
มัลแวร์ คือ กลุ่มของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกชนิดที่สร้างขึ้นมาเ พื่อทำการโจมตี หรือมุ่งร้ายต่อคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอื่น ๆ ให้ได้รับความเสียหาย
ซึ่งกลุ่มโปรแกรมเหล่านี้ เมื่อถูกแทรกซึมหรือติดตั้งเข้าไปในระบบ จะทำให้การทำงานของเครือข่าย หรือระบบคอมพิว เตอร์เกิดการทำงานผิดปกติ Malicious Software หรือ โปรแกรมมัลแวร์ มีหลากหลายตัวด้วยกันครับ เช่น สปายแวร์ (Spyware), ไวรัส (Virus), โทรจัน (Trojan), วอร์ม (Worm)
เสี่ยงโดนมัลแวร์ (Malware) จากที่ไหนได้บ้าง ?
การถูกภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างมัลแวร์โจมตี เกิดขึ้นได้จากหลายช่องทาง ดังนี้
- สแปมต่าง ๆ ที่อยู่ในสื่อสังคมออนไลน์
- Spam Link มัลแวร์ ผ่าน Comment ในสื่อสังคมออนไลน์ทุกชนิด
- เว็บไซต์สำหรับการดาวน์โหลดโปรแกรมชนิดต่าง ๆ
- เว็บไซต์ปลอม หรือข้อความต่าง ๆ ที่ไม่มีข้อมูลชัดเจน
- เว็บไซต์สำหรับการสร้างรายได้พิเศษทุกชนิด
- อีเมลและไฟล์แนบที่เราไม่รู้จัก
- โฆษณาและหน้าต่าง Pop Up ปลอม หรือมีที่มาไม่ชัดเจน
- การใช้งานโปรแกรมปลอม หรือดาวน์โหลดจากแหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
- การดาวน์โหลด Application จากแหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
- การฝัง Link มัลแวร์ ผ่าน Ads หรือโฆษณาต่าง ๆ
ประเภทของมัลแวร์ มีอะไรบ้าง ?
ประเภทของมัลแวร์ มีหลากหลายตัวมากครับ ซึ่งประเภทมัลแวร์ที่เราพบ ว่ามักถูกโจมตีบ่อย ๆ มีดังนี้
1. Worm (เวิร์ม)
Worm คือ โปรแกรมมัลแวร์ที่สามารถพบเจอได้ง่ายที่สุด มีสัญลักษณ์เป็นรูปตัวหนอน หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หนอนคอมพิวเตอร์”
โดยมีการแพร่กระจาย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือระบบเน็ตเวิร์ค ด้วยการแทรกซึมผ่านทางช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อเข้าไปลบไฟล์หรือสร้างไฟล์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบได้ง่าย ส่วนใหญ่เรามักจะพบเห็นเวิร์มถูกแพร่กระจาย มาในรูปแบบการส่งอีเมล และข้อความที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
2. Virus (ไวรัส)
Virus คือ โปรแกรมมัลแวร์อีกประเภทหนึ่ง ที่มีความอันตรายสูง เพราะสามารถคัดลอก หรือกระจายตัวเองไปยังเครื่องคนอื่นได้ง่าย สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบได้เป็นอย่างดี โดยมีการฝังตัวอยู่กับไฟล์ประเภทต่าง ๆ เช่น Document File, Script File และไฟล์ในลักษณะอื่น ๆ
เมื่อคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือของเราติดไวรัสมัลแวร์ จะทำให้เครื่องทำงานได้ช้าลง หรือหยุดการทำงาน เพราะไวรัสมัลแวร์จะเข้าไปทำลายระบบปฏิบัติการ และไฟล์ที่สำคัญของโปรแกรม ทำให้ได้รับความเสียหายจนทำให้เครื่องดับอีกด้วย
3. Trojan (โทรจัน)
ม้าโทรจัน หรือ Trojan คือ โปรแกรมมัลแวร์ที่ถูกติดตั้ งเพื่อทำหน้าที่ปฏิบัติการล้วงความลับ และขโมยข้อมูลสำคัญภายในเครื่อง รวมถึงข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น Password,User ID และข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้งานผ่านการ Login
เมื่อเราใช้งานผ่านการพิมพ์โดยใช้คีย์บอร์ด หรือ Touch Screen จะมีการบันทึกและดักจับข้อมูลการใช้งานของเรา ทำให้โปรแกรมมัลแวร์ประเภทนี้ จึงเป็นที่นิยมนำไปใช้ในการเจาะข้อมูล หรือเจาะระบบต่าง ๆ เพราะสามารถติดตั้งม้าโทรจันผ่านการดาวน์โหลดได้ง่ายนั่นเองครับ
4. Spyware (สปายแวร์)
Spyware คือ โปรแกรมมัลแวร์ที่มีการฝังตัวเหมือนสายลับ สามารถหลบเลี่ยงจากการตรวจจับได้ดี ทำหน้าที่เก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน ของคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ทำให้มิจฉาชีพนำข้อมูลเหล่านี้ไปหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่ดี
โดยโปรแกรมมัลแวร์ชนิดนี้มีการรับมือได้ยากมาก เพราะว่า Spyware จะฝังตัวอยู่กับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง ที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และสามารถกระโดดข้ามไปเครื่องไหนก็ได้อย่างอิสระครับ
5. Backdoor (แบ็กดอร์)
Backdoor คือ โปรแกรมมัลแวร์ที่ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้งาน โดยการติดตั้งเพื่อขโมยข้อมูลต่าง ๆ ภายในเครื่องแบบที่เราไม่รู้ตัวและคาดไม่ถึง !
ซึ่งการทำงานของโปรแกรมมัลแวร์ Backdoor (แบ็กดอร์) จะเริ่มทำงานตั้งแต่การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือขึ้นมา สามารถควบคุมและเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ ภายในเครื่องได้ตลอดเวลา
โดยแฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ออกไปได้อย่างรวดเร็ว และสามารถลบข้อมูลเหล่านั้นทิ้งได้เมื่อทำงานสำเร็จ เปรียบเสมือนว่าได้คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือของเรา ไปใช้งานควบคุมได้ในระยะไกล
โดนมัลแวร์โจมตี ต้องทำอย่างไร ?
เมื่อเราถูกมัลแวร์รูปแบบต่าง ๆ โจมตี สามารถทำตามวิธีเหล่านี้ได้ครับ
- ติดตั้งโปรแกรม Antivirus หรือ Anti malware เพื่อกำจัดมัลแวร์
- หยุดการเชื่อมสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือสร้างเครือข่ายต่าง ๆ
- ไม่ควรเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น Flash Drive, ฮาร์ดดิสก์พกพา
- ทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ปัจจุบัน และทำการกู้ข้อมูล
- ทำการลง Windows ใหม่ เพื่อทำความสะอาดเครื่อง (ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย หลังจากสำรองข้อมูลเสร็จแล้ว)
วิธีป้องกันมัลแวร์ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย
เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากมัลแวร์ ที่เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์การใช้งาน เราขอแนะนำวิธีป้องกันมัลแวร์ ดังนี้ครับ
- ติดตั้งโปรแกรม Antivirus หรือ Anti Malware
- ติดตั้งซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ และถูกกฎหมาย
- รักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
- ควรสำรองไฟล์ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
- ทำการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ
การใช้โปรแกรมลบมัลแวร์ ได้ผลมาก-น้อยแค่ไหน ?
การใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัส หรือ โปรแกรมสแกนมัลแวร์ คือทางออกที่ดีครับ เพราะสามารถช่วยให้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือของเรา ป้องกันมัลแวร์ที่เป็นอันตรายต่อระบบได้มากถึง 95% โดยเฉพาะการป้องกันการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ
โปรแกรมแอนตี้มัลแวร์ หรือ Antivirus สามารถควบคุม และลบมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ ทำให้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของเรา มีความปลอดภัยจากการโจมตีของมัลแวร์ชนิดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ยิ่งมีการอัปเดตโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งช่วยให้การป้องกันมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย
สรุปเรื่องภัยคุกคามมัลแวร์
มัลแวร์ คือ ภัยร้ายตัวสำคัญ ที่สร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือของเรา โดย Malware สามารถแทรกซึมเข้ามาภายในคอมพิวเตอร์ของเราได้ จากพฤติกรรมการใช้งานของตัวเรา
แต่เราสามารถรับมือจากการโจมตีจากไวรัสมัลแวร์ได้ ด้วยการติดตั้งโปรแกรมสแกนมัลแวร์ การอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็นประจำ และการสำรองไฟล์ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลและอุปกรณ์การใช้งาน มีความปลอดภัยจากการถูกโจมตีด้วยมัลแวร์มากยิ่งขึ้นครับ