ยังไงกันแน่ ? หากนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสาร ทำไมบางคนบอกห้ามทำเด็ดขาด !

นำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสาร ทำไมบางคนบอกห้ามทำ
นำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสาร ทำไมบางคนบอกห้ามทำ

โทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสาร

คงไม่มีใครอยากให้โทรศัพท์มือถือของตัวเองตกน้ำจริงไหมครับ ? แต่บางเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็มักจะเกิดขึ้นกับเราเสมอ 

เมื่อเราเผลอทำโทรศัพท์ตกน้ำ หรือโทรศัพท์มือถือเปียกน้ำจนเครื่องดับไป หลายคนแก้ปัญหานี้ด้วยการนำไปแช่ถังข้าวสาร เป็นวิธีโบราณที่บางครั้งได้ผลดี ทำให้โทรศัพท์มือถือกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

แต่ในขณะเดียวกัน มีหลายคนมากครับที่ใช้วิธีนี้แล้วไม่ได้ผล แล้วในความเป็นจริงเราควรนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสารหรือไม่ ? หากทำตามความเชื่อยุคเก่า จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง Itnews24hrs ได้สรุปข้อมูลมาให้แล้วในบทความนี้ครับ

ควรนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสารหรือไม่ ?

ไม่ควรนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสารครับ!

ในความเป็นจริงแล้ว การนำโทรศัพท์เปียกน้ำแช่ถังข้าวสารไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย ส่วนคนที่นำโทรศัพท์แช่ข้าวสาร และสามารถกลับมาเปิดใช้งานได้ตามปกติถือว่าโชคดีมาก ๆ แค่นั้นเองครับ

แต่ก็มีคนจำนวนมากเช่นกันที่นำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสารแล้วโทรศัพท์เปิดไม่ติด สุดท้ายก็ต้องส่งไปให้ศูนย์บริการซ่อมมือถือให้อยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้นการนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ถังข้าวสาร อาจทำให้มีสิ่งสกปรก ฝุ่นผง หรือเศษเม็ดข้าวสารเล็ก ๆ  เข้าไปตามช่องและพอร์ตเสียบของโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย 

รีแคปแบบชัด ๆ อีกครั้ง โทรศัพท์ตกน้ำ ไม่ควร นำไปแช่ถังข้าวสารครับ

ทำไมโทรศัพท์ตกน้ำห้ามแช่ถังข้าวสาร

ทำไมโทรศัพท์ตกน้ำห้ามแช่ถังข้าวสาร

การนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสาร เพื่อหวังให้ข้าวสารดูดความชื้นออก นั้นเป็นไปได้ยากมาก 

เพราะในข้าวสารอาจเต็มไปด้วยเศษข้าวหรือเศษผงเล็ก ๆ มากมาย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่สิ่งเหล่านี้จะสร้างความเสียหายให้กับโทรศัพท์มือถือของเราเพิ่มเติม เช่น เกิดการอุดตันตามซอกพอตเสียบชาร์จ จนทำให้โทรศัพท์มือถือของเราพัง แล้วไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย 

อันตรายจากการนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสาร

การอุดตันของเศษเม็ดข้าวบริเวณช่องพอต

หากนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสารทันที อาจทำให้มีการอุดตันของเศษข้าวเม็ดเล็ก ๆ ในบริเวณช่องพอตเสียบได้ครับ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย และไม่สามารถใช้งานได้ สุดท้ายก็ต้องส่งมือถือไปให้ร้านซ่อมช่วยจัดการให้อยู่ดี

ชาร์จแบตไม่เข้า ใช้งานเครื่องไม่ได้

เมื่อนำโทรศัพท์มือถือตกน้ำแช่ข้าวสาร อาจทำให้เกิดปัญหาชาร์จแบตไม่เข้าครับ

เพราะอย่างที่บอกไปแล้ว ว่าในข้าวสารมักเต็มไปด้วยเศษผง หรือเศษเม็ดข้าวเล็ก ๆ จำนวนมาก เมื่อสิ่งเหล่านั้นเข้าไปอุดตันในช่องพอต หรือช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอร์รี่ จะทำให้พอร์ตได้รับความเสียหาย และชาร์จแบตไม่เข้า

ชาร์จแบตไม่เข้า ใช้งานเครื่องไม่ได้ เพราะเศษฝุ่น หรือเม็ดขาวสารอุดตัน
ชาร์จแบตไม่เข้า ใช้งานเครื่องไม่ได้ เพราะเศษฝุ่น หรือเม็ดขาวสารอุดตัน

หรือหากนำไปแช่ข้าวสารทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้เครื่องพัง และเปิดใช้งานไม่ได้อีกเลย ทำให้เราต้องเสียเงินซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่โดยไม่จำเป็น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : 7 วิธีแก้ โทรศัพท์ตกน้ำชาร์จไม่เข้า ทำยังไงดี ? พร้อมสิ่งที่ควร & ห้ามทำเด็ดขาด !

มีเศษฝุ่น หรือตัวมอดอุดตัน

ภายในถังข้าวสารนอกจากจะมีเศษข้าวแตก ๆ หัก ๆ เม็ดเล็ก ๆ แล้ว หากเป็นข้าวสารที่เก็บไว้นาน มักจะมีตัวมอด หรือมีเศษฝุ่นปะปนอยู่ด้วยครับ

การนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสารเพื่อหวังให้ช่วยดูดซับความชื้น อาจทำให้เศษฝุ่นและตัวมอดเข้าไปอุดตันในพอตเสียบแทนได้ครับ แทนที่จะช่วยได้ กลับกลายเป็นช่วยสร้างความเสียหายแทนครับ

หากไม่นำแช่ถังข้าวสาร ควรแก้ปัญหาโทรศัพท์ตกน้ำอย่างไร
โทรศัพท์ตกน้ำ สามารถแก้ไขได้หลายวิธี ไม่จำเป็นต้องแช่ถังข้าวสาร

หากไม่นำแช่ถังข้าวสาร ควรแก้ปัญหาโทรศัพท์ตกน้ำอย่างไร ?

เรามาลบล้างความเชื่อผิด ๆ กันเถอะครับ! หากโทรศัพท์ตกน้ำไม่ต้องนำไปแช่ถังข้าวสาร แต่เราขอแนะนำให้ทุกคนลองทำตามวิธีแก้น้ำเข้าโทรศัพท์ด้วยวิธีเหล่านี้แทนครับ

  • สังเกตที่แถบวัดความชื้น สำหรับ iPhone 5 ขึ้นไปให้สังเกตที่ช่องใส่ซิมการ์ด ส่วนมือถือรุ่นอื่น ๆ ต้องถอดฝาหลังและแบตเตอรี่ออกก่อน เมื่อแถบวัดความชื้นเปลี่ยนเป็นสีแดง หมายความว่าไม่สามารถแก้ไขได้เบื้องต้น ควรส่งโทรศัพท์ตกน้ำให้ทางศูนย์ หรือร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือตรวจสอบทันที
  • อย่ารีบปิดเครื่องโทรศัพท์ ให้นำผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าที่มีความนุ่ม มาเช็ดจนแห้งสนิท เพราะอาจมีน้ำอยู่ภายนอกตัวเครื่อง หากเปิดเครื่องทันทีอาจสร้างความเสียหายได้ครับ
  • ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าลมร้อน กำจัดความชื้นออกจากโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากความร้อนของไดร์เป่าผมอาจทำให้โทรศัพท์มือถือของเราพังได้เช่นกัน หากจะเป่าลมควรใช้เป็นลมเย็น หรือลมที่มีอุณหภูมิปกติแทนครับ
  • ปิดเครื่องโทรศัทพ์ให้สนิท หลังจากเช็ดโทรศัพท์ที่ตกน้ำแล้วทันที จากนั้นนำมือถือใส่กล่องหรือภาชนะแบบปิด ที่สามารถดูดความชื้นหรือใส่ถุงซิปล็อคก็ได้ครับ จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน โทรศัพท์มือถือของเราจะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
  • ห้ามชาร์จแบตมือถือจนกว่าจะมั่นใจ เพราะอาจเกิดความเสียหาย เช่น ไฟดูด ไฟช็อต ไฟลัดวงจร ตามมาได้ครับ และอาจอันตรายถึงชีวิตเราได้เลยเช่นกัน

สรุปเรื่องโทรศัพท์ตกน้ำแช่ถังข้าวสาร

ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า หากโทรศัพท์ตกน้ำ เปียกน้ำ ให้รีบนำไปแช่ถังข้าวสาร เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำตามครับ เพราะอาจสร้างความเสียหายให้กับมือถือของเราได้มากกว่าที่คิด จนถึงขั้นมือถือกลับมาใช้งานไม่ได้ หรือต้องเสียเงินซื้อมือถือใหม่มาใช้ 

เราหวังว่าเมื่อทุกคนอ่านบทความนี้จบ จะได้คำตอบกันแล้วนะครับ ว่าควรนำโทรศัพท์ตกน้ำแช่ข้าวสารดีไหม ? วิธีแก้ไขมีเยอะมากครับ สามารถทำตามคำแนะนำที่เราสรุปไว้ข้างต้นได้เลย