13 วิธีป้องกันมัลแวร์ แบบได้ผลที่สุด ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

วิธีป้องกันมัลแวร์ แบบได้ผลที่สุด ต้องทำอย่างไร
13 วิธีป้องกันมัลแวร์ แบบได้ผลที่สุด ต้องทำอย่างไรบ้าง

วิธีป้องกันมัลแวร์

การเรียนรู้วิธีป้องกันมัลแวร์ (Malware) เป็นวิธีที่จะทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายจากมัลแวร์ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาและสร้างอันตราย ให้กับอุปกรณ์โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของเราได้ครับ

คลิกอ่านหัวข้อที่สนใจ

นั่นเป็นเพราะว่า มัลแวร์ (Malware) เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่ใช้ในการมุ่งร้ายต่อข้อมูล หรือการโจรกรรมข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของเรา เพื่อทำการเรียกค่าไถ่ 

ในบทความนี้ Itnews24hrs จะสรุปวิธีป้องกันมัลแวร์ให้ได้ทราบกันครับ ว่าควรรับมืออย่างไร เพื่อป้องกันอันตรายจาการถูกโจมตีทางไซเบอร์

วิธีป้องกันมัลแวร์ ต้องทำอย่างไร ?

1. อัปเดต Software และ ระบบคอมพิวเตอร์เป็นประจำ

การอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบคอมพิวเตอร์เป็นประจำ เป็นวิธีป้องกันมัลแวร์ ที่มีประสิทธิภาพแน่นอนครับ เพราะว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ จะใช้แพทช์ช่วยควบคุมด้านความปลอดภัย 

เพื่อแก้ปัญหาและอุดช่องโหว่หรือรอยรั่วของระบบปฏิบัติการนั้น ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ของเราสามารถป้องกันมัลแวร์ได้ตลอดเวลา

2. ติดตั้งโปรแกรมสแกนมัลแวร์

การติดตั้งโปรแกรมสแกนมัลแวร์ เป็นวิธีป้องกันมัลแวร์ที่คอยดูแลสุขภาพเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราให้ดียิ่งขึ้น เป็นตัวป้องกันอันดับแรก ๆ โดยเราต้องติดตั้งหรือเลือกโปรแกรมสแกนมัลแวร์ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันมากที่สุด 

การติดตั้งโปรแกรมสแกนมัลแว ร์จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของเรามีความปลอดภัย และถูกปกป้องจากโปรแกรมสแกนมัลแวร์ประเภทต่าง ๆ ช่วยลดปัญหาการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกช่องทางครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ประเภทของมัลแวร์ มีอะไรบ้าง สาเหตุการเกิด พร้อมแนวทางป้องกัน

วิธีป้องกันมัลแวร์ด้วยการไม่คลิกลิงก์แปลกปลอม
วิธีป้องกันมัลแวร์ด้วยการไม่คลิกลิงก์แปลกปลอม

3. ไม่คลิกลิงก์แปลกปลอม

การไม่คลิกลิงก์แปลกปลอมเป็นวิธีป้องกันมัลแวร์ที่สามารถเริ่มต้นได้จากตัวเรา เพราะว่าในปัจจุบันมิจฉาชีพจะมีการฝังโปรแกรมมัลแวร์ไว้พร้อมกับลิ้งก์ปลอมครับ

เมื่อเราคลิกเข้าไปดูหรือมีการฝากช่องทางข้าม Website ในระหว่างนี้คอมพิวเตอร์ของเรา จะถูกฝังมัลแวร์โดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นการป้องกันการถูกฝังมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว เราจึงไม่ควรคลิกลิงก์แปลกปลอม หรือลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือโดยเด็ดขาด 

4. หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากลิงก์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่เราจะถูกฝังมัลแวร์ติดตามมาด้วย เพราะว่าการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากลิงก์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือเหล่านี้ จะมี Pop Up ในลักษณะต่าง ๆ เด้งขึ้นอัตโนมัติ 

ทำให้เราเกิดการสับสนและคลิกลิงก์ในการตอบรับได้ง่าย ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดตั้งมัลแวร์อย่างอัตโนมัติโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นเราไม่ควรดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ หรือหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือครับ

5. ระวังการคลิกไฟล์ ภาพ จากทางอีเมล

ระวังการคลิกไฟล์ ภาพ จากทางอีเมล เพราะว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการคลิกรูปภาพต่าง ๆ ที่ส่งมากับอีเมล มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกฝังมัลแวร์ประเภท Spyware (สปายแวร์) 

เพราะมัลแวร์ประเภทนี้สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน ข้อมูลส่วนตัว อีเมล รวมถึงรหัสผ่านของบัตรเครดิตได้อีกด้วย เราจึงหลีกเลี่ยงจากการคลิกไฟล์ภาพ จากทางอีเมล์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นวิธีป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ที่สามารถป้องกันได้จากตัวเรา

วิธีป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ด้วยการไม่คลิกข้อความจาก Popup
วิธีป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ด้วยการไม่คลิกข้อความจาก Popup

6. ไม่คลิกข้อความจาก Popup

วิธีป้องกันมัลแวร์ ที่เราไม่ควรทำอีกอย่าง คือ ไม่คลิกข้อความจาก Popup ในปัจจุบัน Pop Up ต่าง ๆ จะมีแอดโฆษณาถูกฝังขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่รบกวนการทำงาน และโฆษณาในสิ่งต่าง ๆ 

สิ่งที่ Pop Up แสดงทุกครั้ง อาจจะมีการฝังมัลแวร์ประเภทต่าง ๆ อยู่ในนั้นด้วย โดยเฉพาะมัลแวร์ประเภท Adware (แอดแวร์) ดังนั้นทุกครั้งที่เรามีการใช้งาน Social หรือเว็บไซต์ จึงไม่ควรคลิกข้อความจาก Pop Up ครับ เพื่อลดการถูกภัยคุกคามทางไซเบอร์โจมตี

7. จำกัดการแชร์ไฟล์ให้กับผู้อื่น

การจำกัดการแชร์ไฟล์ให้กับผู้อื่น เป็นอีกวิธีป้องกันมัลแวร์ที่ช่วยให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ เพราะว่าการจำกัดการแชร์ไฟล์ต่าง ๆ ให้กับผู้อื่น เป็นการลดการเชื่อมต่อต่าง ๆ รวมถึงการเข้าถึงกับไฟล์ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เช่น Google Drive สัญญาณบลูทูธ การเข้าถึงเอกสาร ไฟล์รูปภาพ และไฟล์กลางต่าง ๆ การจำกัดการแชร์ไฟล์ให้กับผู้อื่น จะช่วยให้เรามีความปลอดภัย เพราะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะคนที่อนุญาตให้ใช้งานด้วยกันได้เท่านั้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีแชร์ไฟล์ Google Drive ให้คนอื่นแก้ไขได้ เปิดสาธารณะ แบบรวดเร็วที่สุด ไม่กี่คลิก

8. ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันระบบ

ในปัจจุบันมีวิธีการป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ที่มีประสิทธิภาพในระดับสูงสุด โดยการใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันระบบ ซึ่งการใช้งานในลักษณะนี้โดยส่วนใหญ่จะใช้กับองค์กรหรือหน่วยงานใหญ่ ๆ ที่ต้องการรักษาข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ไว้อย่างปลอดภัย 

การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันระบบ จะมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ คอยตรวจจับความผิดปกติ และมีการอัปเดตระบบตัวเองตลอดเวลา จึงทำให้สามารถตรวจสอบ และต้องการมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

วิธีการป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ด้วยการหมั่นสำรองไฟล์ข้อมูล
วิธีการป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ด้วยการหมั่นสำรองไฟล์ข้อมูล

9. หมั่นสำรองไฟล์ข้อมูล

การหมั่นสำรองข้อมูล จะช่วยให้เราไม่ต้องกังวลเมื่อถูกโจมตีจากโปรแกรมมัลแวร์ทุกชนิด นั่นเป็นเพราะว่าเรามีการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ 

โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เมื่อถูกโจมตีจากไวรัสหรือมัลแวร์ เราสามารถทำการ Reboot หรือลง Windows  ใหม่ในทุก ๆ ครั้งได้ เป็นวิธีป้องกันมัลแวร์และป้องกันข้อมูลสูญหายได้เป็นอย่างดีเลยครับ

10. หลีกเลี่ยงการใช้ Wifi สารธารณะ

วิธีการป้องกันมัลแวร์ที่หลายคนคงยังไม่รู้ คือ การหลีกเลี่ยงการใช้ Wifi สารธารณะ นั่นเป็นเพราะว่าโปรแกรมมัลแวร์สามารถถูกฝังไปกับระบบเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ต และเครือข่ายในลักษณะอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะการใช้งาน WiFi สาธารณะ 

ซึ่งเราต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวของเรา เพื่อสมัครรับ User และ Password  บางครั้งอาจมี Pop Up เด้งขึ้นมาให้เรากรอกข้อมูล ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่โดนมัลแวร์ติดตั้งอัตโนมัติ โดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

11. เก็บข้อมูลส่วนตัวในที่ปลอดภัยเสมอ

โปรแกรมมัลแวร์ถูกสร้างขึ้น เพื่อใช้ในการโจรกรรมข้อมูล ควบคุม หรือทำลายระบบการทำงานคอมพิวเตอร์ การเก็บข้อมูลส่วนตัวในที่ปลอดภัยเสมอ จะช่วยให้เรามีความปลอดภัย จากการโจมตีของโปรแกรมมัลแวร์ 

รวมถึงป้องกันการถูกดูดข้อมูล ระหว่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี เพราะวิธีเก็บข้อมูลส่วนตัวในที่ปลอดภัย สามารถเก็บไว้ในที่ต่าง ๆ ได้ เช่น External Hard Disk, Cloud Online

คลิกอ่านเพิ่มเติม : เสียบ External Hard Disk แล้วไม่ขึ้น เกิดจากอะไร ต้องแก้ไขอย่างไรกันแน่ ?

12. เปิดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสล่วงหน้า

การเปิดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสล่วงหน้า เป็นวิธีป้องกันมัลแวร์ที่ฟังดูแล้วเหมือนจะง่าย แต่ถ้าหากเรานำมาปฏิบัติจริง ถือว่ามีความยุ่งยากอยู่ในตัวครับ 

เพราะโดยทั่วไปแล้ว การเปิดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสล่วงหน้า เราสามารถตั้งค่าให้ซอฟต์แวร์ให้มีการสแกนไวรัสทุก ๆ สัปดาห์ได้ 

เมื่อซอฟต์แวร์กำลังทำงานจะทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของเราอาจช้าลง และไม่สามารถทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ แต่อย่างไรก็ตามการเปิดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสล่วงหน้า เป็นวิธีป้องกัน Malwareที่ควรนำไปใช้งาน เพื่อป้องกันมัลแวร์ชนิดต่าง ๆ ที่อาจจะถูกโจมตีได้ครับ

13. ตั้งค่ารหัสผ่านให้ยากต่อการคาดเดา

การตั้งค่ารหัสผ่านให้ยากต่อการคาดเดา หรือการตั้งค่ารหัสที่มีความแข็งแรงไม่ซ้ำกันแบบต่อเนื่อง จะช่วยให้เรามีความปลอดภัยต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลชนิดต่าง ๆ ได้ครับ เช่น  User ID  Password และข้อมูลบัญชีธนาคาร

โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร เราไม่ควรใช้รหัสซ้ำกัน กับการใช้งานโซเชียลในชีวิตประจำวันโดยเด็ดขาด เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่เราจะถูกโจรกรรมข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ไม่ดี

มีวิธีป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ แบบได้ผล 100% หรือไม่

มีวิธีป้องกันอันตรายจากมัลแวร์ แบบได้ผล 100% หรือไม่ ?

หากถามว่ามีวิธีป้องกันอันตรายจากมัลแวร์แบบได้ผล 100% หรือไม่ คำตอบของเราก็คงตอบไปในทางเดียวกัน ว่าไม่มีทางป้องกันได้แบบ 100% อย่างแน่นอน 

แต่หากปฏิบัติตามวิธีป้องกันมัลแวร์ทั้งหมด 13 ข้อ ตามข้อมูลข้างต้น ซึ่งเป็นวิธีป้องกันมัลแวร์ที่ได้ผล และได้รับความนิยมมากที่สุดสูงถึง 95 % และอีก 5% ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวในการท่องในโลกโซเชียลของเราเอง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีความปลอดภัยจากการโจมตีของมัลแวร์ได้ครับ

หลังจากป้องกันมัลแวร์ไปแล้ว มีโอกาสถูกโจมตีอีกหรือไม่ ?

โปรแกรมมัลแวร์ถูกสร้างขึ้น เพื่อทำการโจรกรรมเกี่ยวกับข้อมูล และทำให้คอมพิวเตอร์ของเราได้รับความเสียหายในลักษณะต่าง ๆ เมื่อเราป้องกันมัลแวร์ไปแล้ว มีโอกาสถูกโจมตีอีกครั้งได้แน่นอนครับ

นั่นเป็นเพราะว่าคนที่พัฒนาซอฟต์แวร์ จะทำให้มีความทันสมัยและรู้รอยรั่วของโปรแกรมแอนตี้ไวรัสหรือแอนตี้มัลแวร์ 

ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ และปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันมัลแวร์ทั้งหมด 13 ข้อ เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ไว ปลอดภัยกับข้อมูลส่วนตัวครับ

สรุปเรื่องวิธีป้องกันมัลแวร์

วิธีป้องกันมัลแวร์ทั้งหมด 13 ข้อนี้ สามารถป้องกันการถูกโจมตีจากโปรแกรมมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่เราจะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น คือ เราต้องมีสติคิดก่อนคลิก หรือแชร์ 

รวมถึงไม่ควรดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือลิงก์ต่าง ๆ จากแหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรามีความปลอดภัยจากการถูกฝังมัลแวร์ ที่เป็นต้นเหตุของการถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลได้แล้วครับ